มิถุนายน 2012

วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Mobile Suit Gundam Seed VS Astray

โมบิลสูท กันดั้ม ซี๊ด VS เเอสเทรย์ เป็นนิยายภาพที่ลงในนิตยสาร Dengeki Hobby Magazine เป็นเหตุกาณ์หลังจากภาคหลัก SEED Destiny เเละ ภาคAstray ไป2ปี เริ่มต้นที่ปี Cosmic Era ที่ 75 มีด้วยกันทั้งหมด 14ตอน..

เนื้อเรื่องย่อ

ในปี Cosmic Era ที่75 สงครามระหว่างกองทัพซาฟท์กับกองทัพโลกได้หยุดลงเพราะ มีออร์บในการช่วยเจรจาสงบศึก เเ่ทว่ายังมีอยู่อีกองค์กรหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการสงบศึกในครั้งนี้ องค์กรณ์นั้นมีชื่อว่า "Librarian Works(ลิบราเลี่ยน เวิร์ค)"เป็นองค์กรที่เกิดขึ้นมาก่อนกลุ่ม Serpent Tail เเละ Junk Guild โดยที่มี รอนโด กิน่า เป็นผู้วางเเผนในการใช้พวก *Carbon Human(คาบอร์น ฮิวเเมน)ในเเผนการลับๆของกลุ่มลิบราเลี่ยน เวิร์ค โดยการใช้ฝันร้ายอย่างเหตุกาณ์ Bloody Valentine Warเป็นชนวนในสงครามครั้งนี้ ทั้งโลว์เเละไกก็ต้องกลับมาร่วมสงครามเพื่อปกป้องสันติภาพของพวกเขากันอีกครั้ง....

*คาบอร์น ฮิวเเมนก็คือ พวกทีี่่่่่่ถูกตัดต่อทางพันธุกรรมระหว่าง
เนเชอรัลเเละโคออดิเนเตอร์ ซึ่งก็เหมือนกับร่างโคลนดีๆนั้นเอง
เเต่มีความสามารถมากกว่าคนธรรมดา

ที่มา : http://www.nipponanime.net

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Mobile Suit Gundam Seed Destiny : Frame Astray

เป็นการ์ตูนมังงะเนื้อเรื่องพิเศษเเบบ Side Story ที่ลงให้กับนิตยาสาร Gundam Ace เมื่อปี 2007 อยู่ในช่วงเวลาของปี C.E.73 เช่นเดียวกับ Gundam Seed : Destiny Astray นั้นเอง เป็นเนื้อเรื่องที่อยู่
ในช่วงกลางของสงครามระหว่างกองทัพZAFTเเละกองทัพโลกซึงได้ต่อสู้กันอีกเป็นครั้งที่2นับจากภาคSeed

เนื้อเรื่อง

ไก มุราคาโมะ ผู้นำกลุ่มกองกำลังทหารรับจ้างอิสระ Serpent Tail ซึ่งไกกำลังได้ทำงานโดยการว่าจ้างจากกลุ่มของสหพันธ์เอเซียตะวันออกเพื่อป้องกันเเนวรวมทางด้านเอเซียตะวันออก เเละเเนวรบต่อไปของกองทัพZAFTที่จะเข้าปะทะกับกองทัพโลก ก็คือทางเอเซียตะวันออกนี่เอง เเต่ว่าก็ยังมีผู้นำกลุ่มกองโจรที่ชื่อ Trojan Noiret(โทรจัน นอยเร๊ท)ซึ่งเป็นนักบินของGundam Astray Green Frame เขาก็อยากที่จะหยุดยั้งสงครามที่กำลังจะเกิดบนโลกที่เขารักด้วยเช่นกัน

ที่มา : http://www.nipponanime.net

Mobile Suit Gundam Seed : Destiny Astray

เป็นมังงะที่ลงในนิตยสาร Gundam Ace ในปี 2004 ได้อ.Tomohiro Chiba มาเเต่งเนื้อเรื่องเเละอ.Kōichi Tokitaมาวาดภาพ เป็น Side Story ของภาคหลัก ที่เกิดขึ้นในปีC.E.73 โดยภาคนี้จะโฟกัสไปที่ช่างภาพหนุ่มที่มีชื่อว่า"เจส เเร๊บเบิ้ล"กับโมบิลสูทของเขานั้นก็คือ ZGMF-X12 Astray Out Frame(เรียกว่าเอาท์เฟรมละกัน)เอาท์เฟรมตัวนี้ถูกสร้างเเละพัฒนาต่อยอดมาจากหุ่นของกองทัพZAFT คนที่นำมาพัฒนาเเละดัดเเปลงต่อมานั้นก็คือโลว์กิลนั้นเอง สุดท้ายโลว์ก็ได้ให้หุ่นตัวนี้เเก่เจสก่อนที่เขาจะเดินทางไปยังดาวอังคาร เจสได้ทำข่าวในหลายสถานที่เเตกต่างกัน เเละยังได้ทำข่าวเกี่ยวกับการพัฒนาโมบิลสูทรุ่นใหม่ๆของZAFT อีกด้วย จนได้รู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับการพัฒนาโมบิลสูทของกลุ่มลับที่ชื่อ Matias เจสได้รู้ว่ามีเเผนการบางอย่างที่จะทำให้โลกเกิดสงครามระหว่างกองทัพZAFTเเละกองทัพโลกอีกครั้ง ทั้งเจส,โลว์,ไกเเบะมินาต้องร่วมมือกันเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเเบบนั้นขึ้นอีกเป็นครั้งที่2ให้จงได้ ปัจจุบันในไทยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิคได้ลิขสิทธิ์มาเเล้ว โดยออกมาทั้งหมด4เล่มครับ

ที่มา : http://www.nipponanime.net

Mobile Suit Gundam Seed C.E.73 Stargazer

หลังจากการตกของยูนิอุสเซเว่นตามเนื่อเรื่องหลักของภาค กันดั้มซี้ดเดสทินี กองทัพโลกได้จัดกำลังพลออกไปช่วยเหลือเหล่าผู้คนที่รับเคราะห์จากวินาศภัย ครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน เซเลเน่ แมคกริฟ พนักงานของหน่วยงานบุกเบิกอวกาศ DSSD (Deep Space Survey and Development Organization) ก็หาทางกลับไปยังสถานีอวกาศของทาง DSSD เพื่อทำการทดสอบโมบิลสูทรุ่น 401 หรือที่รู้จักกันภายหลังว่า “สตาร์เกเซอร์ (GSX-401FW Stargazer)” เพื่อใช้ในการสำรวจอวกาศ

สตาร์เกเซอร์(Stargazer)

อีกด้านหนึ่งกองกำลังอิสระที่ 81 หรือ “แฟมทอมเพน” (Phantom Pain) ก็ได้ส่งทีมของ สเวน คาล บายันผู้ขับโมบิลสูท “สไตรค์ นัวร์” (GAT-X105E Strike Noir) ให้นำลูกทีมอีกสองคนที่ขับ “บลูดูเอล” (GAT-X1022 Blu Duel) และ “เวอร์เด้บัสเตอร์” (GAT-X103AP Verde Buster) ไปต่อต้านการโจมตีจากกองกำลังที่คาดว่าจะเป็นทหารของซาฟต์ที่บุกเข้าโจมตีสถาน ที่ต่างๆในระหว่างที่โลกเกิดความวุ่นวาย คนทั้งสองที่เหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน แต่สุดท้ายด้วยการชี้นำของชะตากรรมและผู้เฝ้ามองดาวทำให้คนทั้งสองต้องมาพบ กันในที่สุด

สไตรค์ นัวร์(Strike Noir)

บลู ดูเอล(Blu Duel)

เวอร์เด้ บัสเตอร์(Verde Buster)

เรื่องน่ารู้

ในตอนสุดท้ายของอนิเม ได้ทิ้งเป็นปมเอาไ้ว้ว่า สรุปเเล้วทั้ง2คนนั้นตายหรือว่าไม่ตายกันเเน่ เพราะหลังจากสู้กันเสร็จกันดั้มก็ลอยออกไปสู่อวกาศอันกว้างใหญ่ เเละไม่มีใครได้เห็นหรือได้ข่าวทั้ง2คนนั้นอีกเลยพร้อมกับที่ภายในค๊อกพิทนั้นอากาศก็เริ่มหมดลงเรื่อย เเต่ว่า....ในเวอรชั่นมังงะนี้ได้เฉลยเอาไว้ว่า ทั้งสเวนเเละเซเลเน่นั้นยังมีชีวิตอยู่ โดยที่ก่อนที่อากาศหายใจภายเครื่องจะหมดลงนั้น โซล(นักบินผู้ช่วยของสตาร์เกเซอร์เป้นเพื่อนกับเซเลเน่)ก็ได้มาพบทั้งสองอยู่ในค๊อกพิท ทั้งคู่ได้ลอยอยู่ในอวกาศเกือบ27วัน ในตอนท้าย สเวนก็ได้เข้้าร่วมกับองค์กรณ์ DSSD ไปในที่สุด

จบแบบ Happy Ending เลย ><

ตัวนี้เป็นตอนพิเศษที่แถมมากับ gundam seed stargazer นะคับ

เพลงประกอบ

Endings
Stargazer ~Hoshi No Tobira~ (Door Of The Stars) by Satori Negishi

ที่มา : http://www.loadmovieseries.com
http://www.gundam.wikia.com
http://www.mahq.net
http://www.nipponanime.net

Mobile Suit Gundam Seed Destiny

เรื่องราวเกิดขึ้นจากผลกระทบของสงครามระหว่างกองทัพโลกและกองทัพซาฟต์ใน สงครามครั้งก่อน เมื่อ ออร์บ ประเทศเป็นกลางโดนกองทัพโลกบุกโจมตีเพื่อยึดโรงงานโมบิลสูทมาเป็นของตัวเอง เพื่อใช้ในการผลิตโมบิลสูทต่อสู้กับกองทัพซาฟต์และนำเทคโนโลยีของออร์บมาใช้
ในขณะนั้นเองตัวเอกของเรื่อง ชิน อาสึกะ นั้นก็ได้รับผลกระทบจากสงครามที่เกิดขึ้นจนทำให้เสียครอบครัวอันเป็นที่รัก ไป ต่อมาในภายหลังก็ได้อพยพย้ายไปอยู่ที่ แพลนท์ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักบินของซาฟต์ในการขับหุ่นกันดั้มรุ่นใหม่ของ ซาฟต์ อิมพัลส์กันดั้ม

อิมพัลส์กันดั้ม(Impulse Gundam)

และด้วยเหตุอันสุดวิสัยจึงต้องเข้ามาเกี่ยวกับสงครามครั้งใหม่ที่เกิดจากการจู่โจมของหน่วยลับบลูคอสมอส นำโดยพันเอกนีโอ ลอร์นอร์ค ได้ขโมยกันดั้มรุ่นใหม่ของทางซาฟต์ไปถึง 3 เครื่อง เคออสกันดั้ม ไกอากันดั้ม อาบิสกันดั้ม ซึ่งในขณะนั้น อัสรัน ซาล่า และ คางาริ ได้อยู่ที่แพลนท์ด้วย ทำให้ทั้งสองต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับสงครามที่จะประทุขึ้นมาครั้งใหม่ ทั้งการก่อการณ์ร้ายของเหล่าโคออดิเนเตอร์ที่แพ้สงครามครั้งก่อน และยังยึดมั่นในอุดมคติของ แพททริก ซาร่า ทำให้พวกเขาส่ง ยูนิอุส เซเวน (JUNIUS SEVEN) ตกลงสู่โลก ทั้งการที่หน่วยลับของโคออดิเนเตอร์พยายามสังหาร ลักส์ ไคลน์ การตัดสินใจของคิระและอัสรันในสงครามที่สวนทางกัน ทั้ง ๆ ที่ความตั้งใจของเขาทั้งสองเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เหตุการณ์จึงยิ่งเลวร้ายยิ่งขึ้น เมื่อบลูคอสมอสยื่นมือเข้ามาในสงครามนี้